พระเยซู

ก่อนกาลสมัยจะเริ่มต้น ในเวลานั้นมีพระเจ้า พระเยซูพระบุตรของพระองค์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ได้สร้างโลกและสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในนั้น ด้วยความรักของพระเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์และให้เขาอยู่ในสวนที่สวยงาม มนุษย์ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระเจ้า การไม่เชื่อฟังนี้เป็นบาปและแยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า พระองค์บอกพวกเขาว่าพวกเขาควรนำสัตว์หนุ่มที่สมบูรณ์มาเป็นเครื่องบูชาเพื่อไถ่บาป การบูชาเหล่านี้ไม่ได้ชดใช้ความบาป เป็นเพียงชี้ให้เห็นถึงการเสียสละสูงสุดที่พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมให้เท่านั้น วันหนึ่งพระเจ้าจะส่งพระเยซูพระบุตรของพระองค์มายังโลกนี้เพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของมนุษย์ทุกคน นางมารีย์และทูตสวรรค์ สี่พันปีต่อมา ในเมืองนาซาเร็ธ มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อมารีย์ เธอหมั้นหมายจะแต่งงานกับโยเซฟ วันหนึ่งทูตสวรรค์มาปรากฏแก่มารีย์และบอกกับเธอว่าเธอจะมีทารกอันแสนพิเศษคนหนึ่ง เธอควรตั้งชื่อเขาว่าเยซู บุตรชายคนนี้จะไม่มีบิดาฝ่ายโลก เขาจะเป็นพระบุตรของพระเจ้า การประสูติของพระเยซู หลังจากการมาเยี่ยมของทูตสวรรค์ โยเซฟและมารีย์เดินทางไกลไปยังเบธเลเฮมเพื่อจ่ายภาษี เมื่อไปถึงเมืองเบธเลเฮมก็มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย พวกเขาต้องค้างคืนในโรงวัวเพราะไม่มีที่ว่างในโรงแรม ที่นั่นพระเยซูได้ประสูติ มารีย์ได้ห่อทารกพระเยซูด้วยผ้าและวางพระองค์ในรางหญ้า คนเลี้ยงแกะ คืนเดียวกันนั้น บนเนินเขานอกเมือง คนเลี้ยงแกะกำลังเฝ้าดูแกะของตน ทูตสวรรค์องค์หนึ่งปรากฏขึ้นและพระสิริของพระเจ้าส่องรอบคนเลี้ยงแกะ ทูตสวรรค์กล่าวว่า “อย่ากลัวเลย เพราะดู​เถิด เรานำข่าวดี​มายังท่านทั้งหลาย คือความปรี​ดี​ยิ่งซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสต์​เจ้า มาบังเกิดที่เมืองดาวิด นี่​จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” จากนั้นทูตสวรรค์จำนวนมากก็ปรากฏตัวและสรรเสริญพระเจ้าว่า “​รัศมี​ภาพจงมี​แด่​พระเจ้าในที่​สูงสุด และบนแผ่นดินโลกสันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวงซึ่งทรงโปรดปรานนั้น” เมื่อทูตสวรรค์ได้จากไปแล้ว คนเลี้ยงแกะได้ทิ้งแกะของตนและมุ่งไปยังเบธเลเฮมอย่างรวดเร็ว ที่นั่นพวกเขาพบทารกตามที่ทูตสวรรค์บอกไว้ นักปราชญ์ หลังจากที่พระเยซูประสูติ พวกนักปราชญ์มาจากอีกประเทศหนึ่งไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาถามว่า “ทารกที่เกิดมาเป็นกษัตริย์ของชาวยิวอยู่ที่ไหน? เราได้เห็นดาวของพระองค์ทางทิศตะวันออกและต้องการบูชาพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดได้ยินเช่นนั้นก็ไม่พอใจ พระองค์ทรงเรียกพวกปุโรหิตและธรรมาจารย์มาพร้อมกัน พวกเขาบอกเขาว่าผู้เผยพระวจนะกล่าวว่าผู้ปกครองจะเกิดในเบธเลเฮม กษัตริย์เฮโรดส่งนักปราชญ์ไปที่เบธเลเฮมเพื่อค้นหากษัตริย์องค์นี้ เมื่อพวกนักปราชญ์ออกจากกรุงเยรูซาเล็ม ดาวดวงนั้นก็พาพวกเขาไปยังบ้านที่พวกเขาพบพระกุมารเยซู พวกเขากราบลงนมัสการ ถวายทองคำ กำยาน และมดยอบแด่พระองค์ พระเจ้าเตือนนักปราชญ์ในความฝันว่าพวกเขาไม่ควรกลับไปหากษัตริย์เฮโรดผู้ชั่วร้าย ดังนั้นพวกเขาจึงกลับบ้านโดยใช้เส้นทางอื่น เหตุผลสำหรับของขวัญจากพระเจ้า พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงดำเนินชีวิตโดยปราศจากบาปและสมบูรณ์ในทุกทาง เมื่ออายุได้สามสิบปี พระเยซูเริ่มสอนผู้คนเกี่ยวกับพระเจ้าพระบิดาของพระองค์ พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์มากมาย เช่น ให้คนตาบอดมองเห็น รักษาโรคต่างๆ ของคนจำนวนมาก หรือแม้แต่ทำให้คนตายเป็นขึ้นมา เหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ทรงสอนวิธีที่จะมีชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ แล้วพระองค์ก็สละพระชนม์ชีพเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของคนทั้งโลก พระคัมภีร์กล่าวไว้ในยอห์น 3:16 ว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้​ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์​ที่​บังเกิดมา เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่​พินาศ แต่​มี​ชี​วิ​นิรันดร์” พระเยซูเสด็จมาบนโลกนี้เพื่อสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเป็นเครื่องบูชาอันสูงสุด โดยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ราคาสำหรับความบาปทั้งหมดได้รับการชดใช้ ไม่จำเป็นต้องถวายเครื่องบูชาไถ่บาปอีกต่อไป นี่คือการปฏิบัติตามพระสัญญาของพระเจ้าที่จะส่งพระผู้ช่วยให้รอด

วันหนึ่งพระเยซูทรงเดินทางไปกับเพื่อนๆ ของพระองค์ พระองค์มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นสะมาเรีย ทรงนั่งลงข้างบ่อน้ำเพื่อพักผ่อนขณะที่เพื่อนๆ ไปซื้ออาหาร ขณะที่พระเยซูนั่งอยู่ที่นั่น มีหญิงคนหนึ่งมาตักน้ำจากบ่อ พระองค์ตรัสถามนางว่า “ขอน้ำดื่มหน่อยได้ไหม?” หญิงคนนั้นประหลาดใจ “ท่านขอน้ำดิฉันดื่มหรือ?” เธอถาม “ท่านไม่รู้หรือว่าดิฉันเป็นชาวสะมาเรียและชาวยิวไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา?” พระเยซูตรัสตอบอย่างอ่อนโยนว่า “ถ้าเจ้ารู้จักพระเจ้าจริงๆ และรู้ว่ากำลังพูดกับใคร เจ้าคงขอให้เรามอบน้ำดำรงชีวิตแก่เจ้า เรายินดีที่จะมอบให้” ผู้หญิงคนนั้นมองพระองค์ด้วยความประหลาดใจ “ท่านค่ะ” เธอกล่าว “บ่อน้ำลึกมากและท่านไม่มีอะไรที่จะตัก ท่านจะตักน้ำดำรงชีวิตนี้ออกมาอย่างไร? “ท่านค่ะ” หญิงคนนั้นพูด “ขอน้ำนี้ให้ดิฉันด้วยเพื่อจะได้ไม่ต้องกระหายอีก และไม่ต้องกลับมาที่นี่เพื่อเอาน้ำ” “จงไปบอกสามีของเจ้า แล้วกลับมาที่นี่” พระเยซูเจ้าตรัส “ดิฉันไม่มีสามี” เธอตอบ “นั่นก็จริง” พระเยซูเจ้าตรัส “เจ้ามีสามีแล้วห้าคน แต่คนที่เจ้ามีตอนนี้ไม่ใช่สามีของเจ้า” ชายคนนี้รู้เกี่ยวกับฉันได้อย่างไร เธอสงสัย “ท่านค่ะ ดิฉันเห็นว่าท่านเป็นผู้เผยพระวจนะ ดิฉันมีคำถามอยากถามท่าน ประชากรของเราได้กราบไหว้พระเจ้า ณ ที่แห่งนี้ ท่านบอกว่ากรุงเยรูซาเล็มเป็นสถานที่สักการะ” พระเยซูตรัสกับเธอว่า “การนมัสการที่ใดไม่สำคัญนัก วันนี้ผู้เชื่อที่แท้จริงสามารถนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง “ดิฉันรู้ว่าพระเมสสิยาห์ที่เรียกว่าพระคริสต์กำลังเสด็จมา” เธอกล่าว “และเมื่อพระองค์เสด็จมา พระองค์จะทรงอธิบายทุกอย่าง” จากนั้นพระเยซูก็บอกกับเธอว่า “เราคือพระองค์” เธอทิ้งหม้อน้ำไว้และกลับเข้าไปในเมือง “มาเถิด” เธอร้อง “มาดูชายผู้หนึ่งซึ่งบอกทุกสิ่งที่ฉันเคยทำมาให้ฉันฟัง พระองค์ไม่ใช่พระคริสต์หรือ?” แล้วชาวเมืองก็ออกไปเฝ้าพระเยซู หลายคนเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด เพราะพระองค์ทรงทราบทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา คุณสามารถอ่านเรื่องราวนี้ได้ในพระธรรมยอห์น 4:3-42 พระเยซูคือคำตอบสำหรับทุกความต้องการของคุณและทุกคำถามของคุณ พระองค์ต้องการเป็นเพื่อนของคุณ พระองค์ต้องการเติมเต็มความว่างเปล่าในหัวใจของคุณ พระองค์สามารถแทนที่ความกลัวและความไม่สงบของคุณด้วยสันติและความสงบ พระเยซูตรัสว่า “มาหาเรา…และเราจะให้ท่านได้พักผ่อน” (มัทธิว 11:28) เพียงอธิษฐานถึงพระองค์และขอให้พระองค์เข้ามาในชีวิตของคุณ เมื่อคุณยอมรับพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์นี้ด้วยศรัทธา พระองค์จะประทับอยู่ในหัวใจของคุณ การปรากฏตัวของพระองค์จะทำให้คุณมีความสุข พระองค์จะประทานความแข็งแกร่งและจุดมุ่งหมายในชีวิตแก่คุณ พระองค์จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ

ทุกคนบูชาบางสิ่งบางอย่าง บางคนบูชาวัตถุ บูชามนุษย์ รูปเคารพ และบางคนบูชาตัวเอง พวกเขาแสดงความจงรักภักดีต่อเทพเจ้าของพวกเขาในรูปแบบต่างๆ ในขณะที่พวกเขาอุทิศตนเพื่อเทพเจ้าแต่ในใจของพวกเขายังคงมีความปรารถนาและร่ำร้องอยู่ พวกเขาพบเพียงความโล่งใจชั่วครั้งชั่วคราวที่ตอบสนองต่อการเรียกร้องของจิตวิญญาณและมีความกล้าที่จะเผชิญในวันรุ่งขึ้นอีกนิดหน่อย ความผิดหวังในอนาคตของพวกเขาก็เป็นเฉกเช่นเดียวกันกับอดีต เทพเจ้าที่พวกเขารับใช้ไม่สามารถเติมเต็มความว่างเปล่าในชีวิตได้ คุณบูชาใคร? เทพเจ้าของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังมีชีวิตอยู่ไหม? วันนี้เขาทำอะไรให้คุณบ้าง? วันนี้คุณคุยกับเขาหรือยัง? เขาตอบเสียงร้องในหัวใจของคุณหรือไม่? คุณเชื่ออะไร? ฉันอยากจะแนะนำคุณให้รู้จักพระเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวที่พิชิตซาตาน ศัตรูตัวฉกาจของเรา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการทรงสร้าง ผู้ทรงตรัสทุกสิ่งให้เกิดขึ้นจริง พระคัมภีร์จะบอกคุณถึงพระเจ้าแห่งสวรรค์องค์นี้ ผู้ทรงสร้างมนุษย์จากผงคลีดิน ให้เรามาอ่านพระธรรมปฐมกาลบทที่หนึ่งและสอง พระองค์ทรงเป็นพระเจ้านิรันดร์ พระองค์ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ทรงเป็นเหมือนเดิมเมื่อวาน วันนี้ และตลอดไป พระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้าง ทรงพิทักษ์และค้ำจุนทุกสิ่ง (กิจการ 17:22-34) พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์นี้ ผู้สถิตในสวรรค์ยังสนใจคุณในฐานะบุคคล พระองค์เห็นคุณท่ามกลางผู้คนมากมาย พระองค์รักและห่วงใยคุณ ทรงอยากเป็นมากกว่าเพื่อนของคุณ พระองค์ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ พระองค์ต้องการอยู่กับคุณ และยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังต้องการอยู่ในตัวคุณ พระองค์ตรัสว่า “จงเข้าสนิ​ทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิ​ทอยู่ในท่าน” (ยอห์น 15:4) ถ้าพระองค์ไม่สถิตอยู่ในใจคุณ แล้วจะมีใครเล่า? เมื่อดูให้ดี เราจะเห็นว่าซาตานกำลังปกครองและทำลายชีวิตผู้คนจำนวนมาก มันครอบครองหัวใจผู้คนเหล่านั้นและแนะนำความชั่วร้ายทั้งหลายเช่น การโกหก การขโมย ความต้องการทางเพศ การโกง การแสวงหาการแก้แค้น และการโปรโมตตัวเอง หากซาตานอยู่ในใจคุณ และชักจูงให้คุณหลงระเริงกับบาปเหล่านี้และอื่น ๆ ทำไมไม่ลองมาหาพระเจ้าแห่งเทพเจ้า ผู้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซูคริสต์ให้ตายเพื่อบาปของคุณและบาปของโลกทั้งหมด (ยอห์น 3:16) คุณถามว่า “มันจะเป็นจริงได้อย่างไร? พระองค์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงฤทธานุภาพจะทรงสถิตอยู่ในใจฉันได้อย่างไร?” (อิสยาห์ 57:15) หากคุณป่วยและเหนื่อยกับความบาป ทำไมไม่ร้องทูลพระเจ้าและกลับใจเสียใหม่ โดยความเชื่อในพระเจ้าและโดยพระโลหิตแห่งการไถ่ของพระคริสต์ บาปของคุณจะได้รับการอภัยและคุณจะได้รับธรรมชาติใหม่ เมื่อซาตานมาทดลอง คุณจะรู้สึกถึงการประทับของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ พระองค์จะประทานการชี้นำและสอนคุณในทุกสิ่ง (ยอห์น 14:26) ในยอห์น 10:10 พระเยซูทรงสัญญาถึงชีวิตที่ครบบริบูรณ์และพระองค์สามารถประทานชีวิตนั้นแก่คุณได้ ของประทานนี้จะเป็นของคุณตราบเท่าที่คุณยังคงซื่อสัตย์และเชื่อฟังพระองค์ “ถ้าเจ้าเต็มใจและเชื่อฟัง เจ้​าจะได้กินผลดี​แห่​งแผ่นดิน” (อิสยาห์ 1:19) ไม่มีพระเจ้าอื่นใดยิ่งใหญ่เท่านี้

ฉันมีข่าวดีที่จะบอกคุณ! มีคนผู้หนึ่งที่สามารถช่วยคุณได้ เขาสามารถยกโทษบาปของคุณและให้ความสุขที่ยั่งยืนแก่คุณ ชื่อของเขาคือพระเยซู ฉันอยากจะเล่าเรื่องราวของพระองค์ให้คุณได้ฟัง พระบิดาของพระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงสร้างโลก พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งในโลกนี้ให้กับคุณและฉัน พระเจ้ารักเรา ทรงรักทุกคนในโลก พระเจ้ารักเรามากจนส่งพระเยซูพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มายังโลกนี้ เมื่อพระเยซูอยู่บนโลกนี้ พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บป่วยและปลอบโยนคนเศร้า รักษาคนตาบอดให้หายและสั่งสอนหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่ผู้คน พระเยซูต้องการให้เราเข้าใจถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระบิดามีต่อคุณและฉัน พระองค์ทรงเล่าเรื่องๆหนึ่งที่อธิบายความรักของพระบิดา คุณสามารถหาอ่านได้ในพระธรรมลูกา 15:11-24 ชายคนหนึ่งมีบุตรชายสองคน เขาคิดว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่งบุตรชายคนหนึ่งคิดกบฎและมาหาเขาและพูดว่า “ฉันไม่ชอบบ้านหลังนี้ ฉันต้องการไปตามเส้นทางของตัวเอง ฉันจะไปจากบ้านหลังนี้ ช่วยแบ่งมรดกให้ฉันด้วย” พ่อเสียใจมาก แต่เขาก็ให้เงินแก่บุตรชายและปล่อยเขาไป เขาสงสัยว่าเขาจะได้พบบุตรชายของเขาอีกหรือไม่ ลูกชายจากไปไกล เขามีความสุขกับการใช้เงินและเพื่อนๆ เขาใช้จ่ายเงินโดยประมาทด้วยการใช้ชีวิตที่เห็นแก่ตัว เขาคิดว่าเขากำลังมีช่วงเวลาดีๆ จนกระทั่งจู่ๆ เงินของเขาก็หมดและเพื่อนๆ ก็ทิ้งเขาไป เขาอยู่คนเดียวและขัดสน ตอนนี้เขาควรทำอย่างไร? เขาไปหาชาวนาและชาวนาก็ส่งเขาไปเลี้ยงหมู เขาได้กินอาหารเพียงเล็กน้อย เขาหิวมากจนต้องกินอาหารหมู เขาเริ่มคิดถึงสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่เขาได้ทำลงไปรวมถึงสิ่งที่กระทำต่อพ่อของเขา เขามีความทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งเขาระลึกถึงความรักของพ่อที่มีต่อเขามากมายเพียงใด เขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีขณะที่เขาอยู่ที่บ้าน แม้แต่คนใช้ของพ่อก็ยังมีอาหารกินอย่างมากมาย เขาคิดว่า “ฉันสามารถกลับไปหาพ่อหลังจากทำสิ่งเลวร้ายต่อท่านได้ไหมนะ? ท่านจะยังรักฉันอยู่ไหมนะ? ฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกของท่าน ฉันเต็มใจที่จะเป็นแค่คนรับใช้หากเพียงท่านรับฉันเข้าไป” ทันใดนั้น เขาก็ลุกขึ้นและเดินทางกลับไปหาพ่อของเขา เขาอยากรู้ว่าพ่อของเขาจะให้อภัยเขาหรือไม่ พ่อเฝ้ารอคอยนับตั้งแต่บุตรชายจากไป เขามักจะสงสัยว่า “เขาจะกลับมาไหมนะ” วันหนึ่งเขาเห็นใครบางคนเดินมาแต่ไกล นั่นอาจจะเป็นลูกชายของเขา เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็วิ่งไปโอบกอดบุตรชายของเขา “พ่อครับ” บุตรชายกล่าว “ลูกได้ทำบาปต่อพ่อแล้ว ลูกไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกของพ่อ” แต่พ่อของเขากล่าวว่า “จงนำเสื้อผ้าที่ดีที่สุดมาให้ลูกชายของฉันและจงเตรียมงานเลี้ยง ลูกชายของฉันหายไป แต่ตอนนี้ฉันพบเขาแล้ว” เราทุกคนเป็นเหมือนลูกชายคนนี้ เราทุกคนหลงจากพระเจ้าซึ่งเป็นพระบิดาของเรา เราได้เสียโอกาสและสิ่งดีๆ มากมายที่พระองค์ประทานแก่เรา เราดำเนินชีวิตอย่างเห็นแก่ตัวและกบฏต่อพระองค์ วันนี้พระบิดาบนสวรรค์ทรงเชิญเราให้มาหาพระเยซู พระองค์กำลังรอเราด้วยอ้อมแขนของพระองค์ พระเยซูทรงแสดงความรักของพระองค์แก่เราโดยการสละพระชนม์ชีพของพระองค์เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของเราและของคนทั้งโลก พระองค์ทรงทนรับความเจ็บปวดและการปฏิเสธขณะทรงยอมให้คนชั่วร้ายตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขน โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระองค์ทรงฟื้นจากความตายและทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ จงกลับมาหาพระเยซูและขอให้พระองค์ยกโทษบาปของคุณ เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่าคุณเสียใจในความผิดที่คุณทำ พระองค์จะทรงยกโทษให้คุณและล้างบาปทั้งหมดของคุณออกด้วยพระโลหิตที่หลั่งไหลของพระองค์ มันจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม! คุณจะกลายเป็นคนใหม่ ชีวิตจะมีความหมายใหม่ พระเยซูจะประทานความสุขแทนที่ความรู้สึกผิดและความกลัวของคุณ พระองค์จะเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ

พระเยซู เพื่อนของคุณ ฉันอยากจะเล่าเรื่องราวของพระองค์ให้คุณฟัง เรามาอ่านเรื่องนี้ในพระคัมภีร์กัน พระคัมภีร์เป็นความจริงและ เป็นพระคำของพระเจ้า พระเจ้าคือผู้สร้างโลกและทุกสิ่งบนโลกใบนี้ พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งสวรรค์และโลก พระองค์ประทานชีวิตและลมหายใจให้กับทุกสิ่ง พระเยซูเสด็จมาบนโลกตั้งแต่ยังเป็นทารกน้อย พ่อและแม่บนแผ่นดินโลกของพระองค์คือโยเซฟและมารีย์ พระองค์เกิดในโรงวัวและนอนในรางหญ้า บางคนไม่ได้รักพระเยซู พวกเขาอิจฉาและถึงกับเกลียดชังพระองค์ พวกเขาเกลียดชังพระองค์มากจนอยากจะฆ่าพระองค์ ในวันที่น่ากลัวพวกเขาฆ่าพระเยซูโดยตรึงพระองค์ไว้ที่ไม้กางเขน พระองค์ไม่ได้ทำผิดอะไร พระองค์ต้องตายแทนเราเพราะคุณกับฉันทำผิด วันนี้พระองค์สามารถได้ยินได้เห็นคุณ พระองค์รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณและห่วงใยคุณ เพียงมาหาพระองค์ในคำอธิษฐาน บอกพระองค์ในทุกปัญหาของคุณ พระองค์พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณ คุณสามารถก้มศีรษะและพูดคุยกับพระองค์ได้ทุกที่ทุกเวลา พระองค์จะกลับมาอีกในไม่ช้า! และพระองค์จะนำบรรดาผู้ที่เชื่อในพระองค์กลับไปยังบ้านที่อยู่บนสวรรค์

แรกเริ่มเดิมที ไม่มีอะไรในโลกนี้ ไม่มีปลา ไม่มีดวงดาวบนท้องฟ้า ไม่มีทะเลและดอกไม้ที่สวยงาม ทั้งหมดว่างเปล่าและมืดมิด แต่มีพระเจ้า พระเจ้ามีแผนการที่ยอดเยี่ยม พระองค์คิดถึงโลกที่สวยงาม และในขณะที่พระองค์คิด พระองค์ทรงสร้างมันขึ้นมา พระองค์สร้างทั้งหมดจากความว่างเปล่า เมื่อพระเจ้าสร้างสิ่งใด พระองค์เพียงตรัสว่า “จงเกิดขึ้นมา” และมันก็เป็นไปตามนั้น! พระองค์ทรงสร้างแสงสว่าง ทรงสร้างแม่น้ำและทะเล แผ่นดินที่มีหญ้าปกคลุม สัตว์ต่างๆ นกและต้นไม้ สุดท้าย พระองค์ทรงสร้างผู้ชาย แล้วทรงสร้างภรรยาให้ชายนั้น ชื่อของพวกเขาคืออาดัมและเอวา พระเจ้าทรงรักพวกเขามาก ทุกเย็นพระองค์เสด็จเยี่ยมพวกเขาในสวนที่พวกเขาอาศัยอยู่ สวนทั้งสวนเป็นที่สำหรับพวกเขา ยกเว้นต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นไม้ต้องห้ามของพระเจ้า อาดัมและเอวามีความสุขมาก จนวันหนึ่งซาตานซึ่งเป็นศัตรูของพระเจ้ามาทดลองพวกเขา พวกเขาตัดสินใจชิมผลของต้นไม้ต้องห้ามของพระเจ้า พวกเขาทำบาป และเป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกละอายและเศร้าใจ พวกเขาไม่สามารถพูดคุยกับพระเจ้าได้อีกต่อไป ตอนนี้พวกเขาเจ็บปวดและลำบาก และพวกเขาจะต้องตาย พวกเขาเสียใจแค่ไหน! พระเจ้าสัญญาว่าจะช่วยพวกเขา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พระองค์จะทรงส่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในโลก พระเยซูจะเสด็จลงมาจากสวรรค์และหาวิธีให้บาปได้รับการอภัย การทำเช่นนี้พระองค์จะต้องทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์เพื่อมนุษยชาติ พวกเขาดีใจมากที่พระเจ้าส่งพระผู้ช่วยให้รอดมาให้พวกเขา! อาดัมและเอวามีลูกหลาน และผู้คนมากมายอาศัยอยู่ในโลก พระเจ้าต้องการให้ทุกคนมีความสุข พระองค์บอกพวกเขาว่าต้องทำอย่างไร นี่คือกฎเกณฑ์ที่พระเจ้ามอบให้พวกเขา: สิ่งเหล่านี้เขียนไว้ในพระคัมภีร์เพื่อให้เราสามารถอ่านได้ ถ้าเราเชื่อฟังเราจะมีความสุข ซาตานไม่ต้องการให้เราเชื่อฟังบทบัญญัติเหล่านี้ บางครั้งมันบอกเราให้ขโมยของขณะที่คนเผลอ แต่พระเจ้ารู้ดี พระเจ้าเห็นทุกสิ่ง บางครั้งซาตานล่อลวงให้เราโกหกและทำให้เราคิดว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่พระเจ้ารู้ดี พระองค์ได้ยินทุกอย่าง เมื่อเราทำสิ่งเหล่านี้ ภายในใจของเราจะรู้สึกแย่ พระเจ้ารักเราและต้องการช่วยให้เราเป็นคนดี นั่นเป็นเหตุผลที่พระองค์ทรงส่งพระเยซูเข้ามาในโลก พระเจ้าจดจำพระสัญญาของพระองค์ ผ่านไปหลายปีพระเยซูประสูติเป็นทารกน้อย พระองค์เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ พระองค์ทรงทำสิ่งอัศจรรย์มากมาย พระองค์รักษาคนป่วย พระองค์ทรงทำให้คนตาบอดมองเห็น พระองค์ทรงอวยพรเด็กๆ พระเยซูไม่เคยทำอะไรผิด พระองค์บอกผู้คนเกี่ยวกับพระเจ้าและวิธีเชื่อฟังพระองค์ ไม่นานศัตรูของพระเยซูก็ตรึงพระองค์ที่ไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของคนทั้งปวง แม้แต่คนที่ตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขน พระเยซูถูกฝัง แต่แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น พระองค์ไม่ได้อยู่ในหลุมฝังศพ พระองค์ฟื้นจากความตาย! หลังจากนั้นไม่นาน พระเจ้าก็พาพระองค์กลับสวรรค์ท่ามกลางหมู่เมฆ ขณะที่เพื่อนๆ ของพระองค์มองดูพระองค์จากไป ทูตสวรรค์บอกพวกเขาว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้ง พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเราเช่นกัน พระองค์ทรงต้องการให้เราเสียใจและสารภาพบาปของเรา พระองค์พร้อมที่จะให้อภัยเรา เราสามารถอธิษฐานต่อพระเจ้าได้ตลอดเวลา พระองค์ได้ยินทุกคำและรู้ทุกความคิด พระองค์ทำให้เรารู้สึกมีความสุขภายในเมื่อบาปของเราได้รับการอภัย แล้วเราอยากจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และอยากทำดี เราอาจเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้าและติดตามซาตาน แต่พระวจนะของพระเจ้าบอกว่าถ้าเราปฏิเสธพระองค์ในชีวิตนี้ พระองค์จะทรงโยนเราลงนรก นรกเป็นสถานที่แห่งไฟที่เผาไหม้ตลอดกาล